โครงงาน 5 บท
โครงงานเรื่อง
บัวลอยสมุนไพร
จัดทำโดย
นาย รังสิมันตุ์ บุหงารัตน์ เลขที่ 2 ม.4/1
นางสาว จุฑามาศ ประสิทธินาวา เลขที่ 7 ม.4/1
นางสาว นนทิยา ธงชัย เลขที่ 9 ม. 4/1
นางสาว นิศาชล สีวงษ์สา เลขที่ 10 ม. 4/1
เสนอ
อาจารย์ ศิริรัตน์ ปานสุวรรณ
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม จังหวัดตราด
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 17
โครงงานเรื่อง... บัวลอยสมุนไพร
บทที่1 บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
บัวลอย จัดเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมา
ตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยทั่วไปประชาชนจะทำขนมเฉพาะในงานเลี้ยง
นับตั้งแต่การทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลและงานพิธีการ วัตถุดิบการทำที่กลมกลืน
พิถีพิถัน ในเรื่องรสชาติ สีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน
ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทาน ขนมแต่ละชนิด
ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้น ๆ
บัวลอย จัดเป็นขนมไทยอย่างหนึ่ง
กล่าวได้ว่ามีอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เพราะเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่บ่งบอกว่า
คนไทยเรานั้นเป็นคนมีลักษณะนิสัยอย่างไรบ้าง เนื่องด้วย ขนมไทยแต่ละชนิด
ล้วนมีเสน่ห์มี รสชาติ ที่แตกต่างกันออกไป แต่แฝงไปด้วยความละเมียดละไม
ความวิจิตรบรรจง อยู่ในรูปลักษณ์ กลิ่น รสของขนมที่สำคัญ
ขนมไทยแสดงให้เห็นว่าเป็นคนใจเย็นรักสงบมีฝีมือเชิงศิลปะ ซึ่งขนมเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะใช้และทำด้วยแป้ง
น้ำตาล มะพร้าว เป็นส่วนประกอบสำคัญ สามารถดัดแปลงเป็นขนมหลายชนิด หน้าตา
แตกต่างกัน
วัตถุประสงค์
เพื่อสร้างสื่อด้วยโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ เรื่องบัวลอยสมุนไพร
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
จาการศึกษา การทำบัวลอยสมุนไพร
ผุ้จัดทำได้ศึกษาข้อมูล เอกสาร ทฤษฎี
ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.
ใบเตย
2.
อัญชัน
3.
ฟักทอง
4.
ไข่ไก่
5.
มะพร้าว
ใบเตย
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pandanusamaryllifoliusเป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก ขึ้นเป็นกอ ลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเป็นใบเดี่ยว
เรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ใบเป็นทางยาว สีเข้ม ค่อนข้างแข็ง เป็นมัน
ขอบใบเรียบ ในใบมีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย Fragrant Screw Pine สีเขียวจากใบเป็นสีของคลอโรฟิลล์ ใช้แต่งสีขนมได้
ในบังกลาเทศเรียกว่า ketakiใช้เพิ่มกลิ่นหอมของ ข้าวพิลาฟ หรือข้าวปุเลา บิรยานี
และพุดดิ้งมะพร้าว payeshในอินโดนีเซียเรียก pandanwangiพม่าเรียก
soon-mhwayในศรีลังกาเรียก rampeในเวียดนามเรียก
ládứaใบใช้ได้ทั้งใบสดและใบแห้ง
และมีขายในรูปใบแช่แข็งในประเทศที่ปลูกไม่ได้
ใช้ปรุงกลิ่นในอาหารของหลายประเทศเช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย
ไทย บังกลาเทศ เวียดนาม จีน ศรีลังกา และพม่า โดยเฉพาะข้าวและขนม
ประโยชน์จากใบเตย :สำหรับ "เตยหอม" นั้น ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีใช่ไหมล่ะจ๊ะ
โดยเฉพาะ "ใบเตย" ที่มักถูกนำมาผสมในอาหาร
เพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน แถมยังช่วยแต่งสีเขียวให้กับขนมไทยด้วย
ซึ่งคนทั่วไปอาจจะรู้ว่าประโยชน์ของ "เตยหอม" มีเพียงเท่านี้ แต่จริง ๆ แล้ว นอกจาก "เตยหอม" จะมีดีที่ความหอมแล้ว
ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพแฝงอยู่ด้วยนะ
อัญชัน
ชื่ออังกฤษ: Asian pigeonwings
ชื่อวิทยาศาสตร์: Clitoriaternatea L.
เป็นไม้เถา ลำต้นมีขนนุ่ม
มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน มีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกคือแดงชัน
(เชียงใหม่) และเอื้องชัน,เองชัญ (เหนือ)เมื่อคั้นออกมาจะได้เป็นสีฟ้า
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :อัญชันเป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อน อายุสั้น ใช้ยอดเลื้อยพัน
ลำต้นมีขนปกคลุม ใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามยาว 6-12 เซนติเมตร
มีใบย่อยรูปไข่ 5-7ใบ กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบด้านล่างมีขนหนาปกคลุม
ดอกสีขาว ฟ้า และม่วง
ดอกออกเดี่ยว ๆ รูปทรงคล้ายฝาหอยเชลล์ออกเป็นคู่ตามซอกใบ กลีบดอก 5 กลีบ
ดอกบานเต็มที่ยาว 2.5-3.5
เซนติเมตรกลีบคลุมรูปกลม
ปลายเว้าเป็นแอ่ง ตรงกลางมีสีเหลือง มีทั้งดอกซ้อนและดอกลา
ดอกชั้นเดียวกลีบขั้นนอกมีขนาดใหญ่กลางกลีบสีเหลือง ส่วนกลีบชั้นในขนาดเล็กแต่ดอกซ้อนกลีบดอกมีขนาดเท่ากัน
ซ้อนเวียนเป็นเกลียว[2] ออกดอกเกือบตลอดปี ผลแห้งแตก เป็นฝักแบน กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร เมล็ดรูปไต สีดำ มี 5-10 เมล็ด
สรรพคุณ :
·
ดอก
ใช้สกัดสีทำเป็นสีผสมอาหาร ใช้ปลูกผมทำให้ผมดกดำ งามงามมากขึ้น
เพราะดอกอัญชันมีสารที “แอนโทไซยานิน”
(Anthocyanin) ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีมากขึ้น
·
เมล็ด
เป็นยาระบาย
·
ราก
บำรุงตาแก้ตาฟาง ถูฟันแก้ปวดฟัน ตาแฉะ และปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ
นำรากมาถูกับน้ำฝนใช้หยอดหูและหยอดตา
ฟักทอง
ฟักทอง (Squash; ญี่ปุ่น: カボチャ, 南瓜; Kabocha) เป็นพืชชนิดหนึ่ง ใช้ทำได้ทั้งอาหารคาว ของหวาน
และเป็นอาหารว่างได้ด้วย ปกติฟักทองเมื่อแก่จัดจะมีสีเหลืองอมส้ม เป็นพืชมีเถา
ปลูกได้ทั่วไปทั้งในเขตร้อนและเขตหนาว ในทางพฤกษศาสตร์ จัดอยู่ในสกุล Cucurbitaวงศ์ Cucurbitaceaeเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา และแพร่กระจายไปทั่วโลก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์[แก้]
·
ฟักทองเป็นไม้เถาเลื้อยไปตามดิน
มีมือสำหรับยึดเกาะ ลำต้นอวบน้ำ ใบเดี่ยวรูปห้าเหลี่ยม มีขนทั้งสองด้าน
ดอกสีเหลืองรูปกระดิ่ง ผลฟักทองมีด้วยกันหลายลักษณะ บางครั้งเป็นผลเกือบกลมก็มี
แต่โดยทั่วไปเป็นรูปทรงกลมแป้น ผิวขรุขระเล็กน้อย เมื่อยังดิบเนื้อค่อนข้างแข็ง
·
ฟักทองแบ่งเป็นตระกูลหลักสองตระกูลคือ
ตระกูลฟักทองอเมริกัน (pumpkin)
ขนาดผลใหญ่ เนื้อยุ่ย
กับตระกูลสควอช (Squash)
ได้แก่ฟักทองไทยและฟักทองญี่ปุ่นเปลือกแข็ง
เนื้อแน่น
·
ฟักทองไทยมีหลายสายพันธุ์
เช่น คางคกดำ คางคกลาย ศรีเมือง ข้องปลา สีส้ม รูปร่างกลมแป้น ผิวขรุขระเล็กน้อย
ดิบเปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจึงเป็นสีเหลืองอมส้ม ฟักทองญี่ปุ่น หรือกะโบะชะ (Kabocha) อยู่ในตระกูลสควอช (Squash)
เช่นเดียวกับฟักทองไทย
ผลเป็นทรงกลมขนาดเล็ก เนื้อแน่น รสหวานมัน
ประโยชน์และการใช้ :
ฟักทองถือเป็นพืชในตระกูลมะระ
ชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวผลขณะยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะแล้วจะมีสีเขียวสลับเหลือง
ผิวไม่เรียบขรุขระเปลือกมีลักษณะแข็งเนื้อในสีเหลือง
มีเส้นใยอยู่ภายในเป็นสีเหลืองนิ่มพร้อมกับเมล็ดสีขาวแบนๆ ติดอยู่
ประโยชน์ของฟักทองนั้นมีมากมาย สามารถนำมาใช้กินบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้ดี
ไข่ไก่
ส่วนประกอบสำคัญของไข่ :
คือ โปรตีน
โดยมีกรดอะมิโนที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตถึง 10
ชนิด และยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญอีก 13
ชนิด
ส่วนประกอบของฟองไข่ :
เปลือกไข่
ประกอบด้วย แคลเซียมเป็นส่วนใหญ่
เปลือกไข่มีรูเล็ก ๆ มากกว่า 17,000 รู
ช่วยระบายความชื้นและรับอากาศเข้าสารเคลือบผิวป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เข้าฟองไข่
ไข่ขาว
เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ มีลักษณะข้นและใส
ส่วนที่ข้นอยู่ใกล้ไข่แดง
แต่เมื่อเก็บนานขึ้นความข้นจะลดลง
ไข่ขาวทำหน้าที่พยุงให้ไข่แดงอยู่คงที่
ช่วยรองรับแรงกระเทีอนไม่ให้ไข่แดงแตกตัว
ไข่แดง
มีคุณค่าอาหารสูง ประกอบด้วยไขมัน
และโปรตีนเล็กน้อย วิตามิน เอ ดี อี เกลือแร่
แร่ธาตุต่าง ๆ ได้แก่ ฟอสฟอรัส
เหล็ก แคลเซียม และมีสังกะสี ไอโอดีน และ ซีลีเนียม สารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินบีโฟเลต ไขมันไม่อิ่มตัวสีของไข่แดงขึ้นอยู่กับการกินอาหาร
ของแม่ไก่
มะพร้าว
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้นชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลปาล์ม
เป็นพืชซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายทาง เช่น
น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อนใช้รับประทาน เนื้อในผลแก่นำไปขูดและคั้นทำกะทิ
กะลานำไปประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ ฯลฯ
นอกจากนี้มะพร้าวจัดเป็นพรรณไม้มงคลชนิดหนึ่ง ตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง
ได้กำหนดให้ปลูกมะพร้าวไว้ทางทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล
ลักษณะทั่วไป
ลักษณะทั่วไป :
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้น
ใบมีลักษณะเป็นใบประกอบแบบขนนก ผลประกอบด้วยเอพิคาร์ป (epicarp) คือเปลือกนอก ถัดไปข้างในจะเป็นมีโซคาร์ป (mesocarp) หรือใยมะพร้าว ถัดไปข้างในเป็นส่วนเอนโดคาร์ป (endocarp) หรือกะลามะพร้าว ซึ่งจะมีรูสีคล้ำอยู่ 3 รู
สำหรับงอก ถัดจากส่วนเอนโดคาร์ปเข้าไปจะเป็นส่วนเอนโดสเปิร์ม
หรือที่เรียกว่าเนื้อมะพร้าว ภายในมะพร้าวจะมีน้ำมะพร้าว ซึ่งเมื่อมะพร้าวแก่
เอนโดสเปิร์มก็จะดูดเอาน้ำมะพร้าวไปหมด
ขณะที่มะพร้าวยังอ่อน ชั้นเอนโดสเปิร์ม (เนื้อมะพร้าว) ภายในผลมีลักษณะบางและอ่อนนุ่ม
ภายในมีน้ำมะพร้าว ซึ่งในระยะนี้เรามักสอยเอามะพร้าวลงมารับประทานน้ำและเนื้อ
เมื่อมะพร้าวแก่ ซึ่งสังเกตได้จากการที่เปลือกนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
ประโยชน์:
ในผลมะพร้าวอ่อนจะมีน้ำอยู่ภายใน
เรียกว่าน้ำมะพร้าว ใช้เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยโพแทสเซียม นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังมีคุณสมบัติปลอดเชื้อโรค
และเป็นสารละลายไอโซโทนิก
ซึ่งด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำน้ำมะพร้าวไปใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดเวน
ในผู้ป่วยที่มีอาการขาดน้ำหรือปริมาณเลือดลดผิดปกติได้
น้ำมะพร้าวสามารถนำไปทำวุ้นมะพร้าวได้ โดยการเจือกรดอ่อนเล็กน้อยลงในน้ำมะพร้าว
เนื้อในของมะพร้าวแก่
นำไปทำกะทิได้ โดยการขูดเนื้อในเป็นเศษเล็ก ๆ แล้วบีบเอาน้ำกะทิออก
กากที่เหลือจากการคั้นกะทิ
ยังสามารถนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ได้
ยอดอ่อนของมะพร้าว
หรือเรียกอีกชื่อว่า หัวใจมะพร้าว (coconut’s heart) สามารถนำไปใช้ทำอาหารได้
ซึ่งยอดอ่อนมีราคาแพงมาก เพราะการเก็บยอดอ่อนทำให้ต้นมะพร้าวตาย
ด้วยเหตุนี้จึงมักเรียกยำยอดอ่อนมะพร้าวว่า
' สลัดเจ้าสัว'
(millionaire's salad)
ใยมะพร้าว นำไปใช้ยัดฟูก ทำเสื่อ
หรือนำไปใช้ในการเกษตร
น้ำมันมะพร้าว ได้จากการบีบหรือต้มกากมะพร้าวบด นำไปใช้ในการปรุงอาหารหรือนำไปทำเครื่องสำอางก็ได้
และในปัจจุบันยังมีการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันมะพร้าวอีกด้วย
กะลามะพร้าว นำไปใช้ทำสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ กระดุม ซออู้ ฯลฯ
ก้านใบ หรือทางมะพร้าว ใช้ทำไม้กวาดทางมะพร้าว
จั่นมะพร้าว (ช่อดอกมะพร้าว) ให้น้ำตาลจาวมะพร้าวใช้นำมาเป็นอาหารได้
ในจาวมะพร้าวมีฮอร์โมนออกซิน และฮอร์โมนอื่นๆแต่ มี ฮอร์โมนออกซินปริมาณมากที่สุด
ซึ่งเมื่อนำไปคั้น และนำน้ำที่ได้จากจาวมะพร้าว ไปรดต้นพืช
เคล็ดลับ
ถ้าอยากได้แป้งสีสวยๆเราต้องทำแบบนี้
·
สีขาว
: แป้งบัวลอยธรรมดา
·
สีเขียว
: ใบเตยคลาสสิค..ก็เอาใบเตยมาหั่น แล้วตำด้วยครก (ใครจะปั่นก็ไม่ว่า) แล้วคั้นเอาน้ำมา นวดกับแป้งก็จะได้สีเขียวจ่ะ
·
สีน้ำเงิน
: ใบดอกอัญชัญสดแช่น้ำ หรือ
ไม่ก็ไปซื้ออัญชัญตากแห้งที่เค้าขายมาแช่น้ำก็ใช้ได้
สีเหลือง : ฟักทองบด ....ต้องเลือกฟักทองที่เนื้อไม่แน่นนะคะ
เพราะถ้าเนื้อแน่นมากจะบดไม่ละเอียด กลายเป็นกากแข็งๆ
ที่สำคัญใช้แค่เนื้อฟักทองที่ต้มสุกแล้ว ไม่ใช้น้ำเลย
และลดปริมาณแป้งลงเพราะ
เนื้อของฟักทองจะทำให้ปริมาณบัวลอยที่ได้เพิ่มขึ้นมาก..
หากคนไม่เคยทำต้องกะให้พอดี
เพราะแม้บัวลอยฟักทองจะปั้นง่าย แต่ถ้านิ่มเกินไป
ตอนลวกมาแล้วจะเละ
และไปติดกับสีอื่นเป็นตังเมเลยทีเดียว
บทที่ 3 วัตถุดิบและอุปกรณ์
ส่วนผสมบัวลอย
1.
แป้งข้าวเหนียว
๒ ถ้วยตวง
2.
ใบเตย/อัญชัน/ ฟังทอง นึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง
ใบเตย/อัญชัน
3.
น้ำเปล่า
๑/๔ ถ้วยตวง
ส่วนผสมกะทิ
1.
กะทิ
2 ถ้วยตวง
2.
น้ำตาลมะพร้าว
๑๐๐ กรัม
3.
น้ำตาลทรายแดง
๑ ถ้วยตวง
4.
เกลือป่น
๑ ช้อนชา
5.
เนื้อมะพร้าวอ่อน,ไข่
วิธีทำ
1.ผสมแป้งข้าวเหนียว, ใบเตย/อัญชัน/ ฟังทองนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน
2.ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุก
จะลอยขึ้นด้านบน ให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น
3.ผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายแดงและเกลือป่นลงไป
ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียวก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด
จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปในน้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ
4.ถ้ามีมะพร้าวอ่อนใส่พร้อมลูกบัวลอย กรณีต้องการทำบัวลอยไข่หวาน
ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ
ภาคเรียนที 2 ปีการศึกษา
2556
ที่
|
กิจกรรม/รายการปฏิบัติ
|
ระยะเวลาการดำเนินการ(เดือน)
|
ผู้รับผิดชอบ
|
หมายเหตุ
|
|||
20-25 พ.ย. 56
|
26-30 พ.ย. 56
|
1-15 ธ.ค. 56
|
15-30 ธ.ค.56
|
|
|
||
1.
|
ประชุม
|
|
|
|
|
สมาชิกในกลุ่ม
|
|
2.
|
หาข้อมูล
|
|
|
|
|
|
|
3.
|
เรียบเรียงข้อมูล
|
|
|
|
|
|
|
4.
|
จัดทำ, สร้างสื่อ
|
|
|
|
|
|
|
5.
|
สรุปผล
|
|
|
|
|
|
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.เป็นการนำกล้วยจากโรงเรียนที่จะทำในเรื่องโครงการเศรษฐกิจพอเพียงมาทำให้เกิดประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น
2.ได้นำกล้วยกวนมาเป็นส่วนผสมกับขนมไทย
3.เป็นแนวทางในการทำกิจกรรมเสริมตามโครงการเสริมรายได้ระหว่างเรียน
4.ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
5.รู้จักนำเอาวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์และรู้จักการแปรรูปอาหาร
ทำให้มีจุดที่น่าสนใจมาก
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
จากการศึกษาการทำโครงงานเรื่องบัวลอยสมุนไพร เราได้ศึกษาจากอินเตอร์เน็ต
แล้วนำมาจัดเรียงเป็นเพาเวอร์พอยต์ โดยแบ่งออกเป็น 14 สไลค์ มีเนื้อหา 9 สไลค์
ดั้งนี้
บทที่ 5 การสรุปผลการจัดสร้างโครงงานปัญหาและข้อเสนอแนะ
การสรุปผลการจัดสร้างโครงงาน
จาการทำโครงงาน บัวลอยสมุนไพร ผู้จัดทำได้รับความรู้และประสบความสำเร็จ
ดังนี้
1.
ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
2.
รู้จักขั้นตอนในกานทำบัวลอย
3.
รายได้เกิดขึ้นในระหว่างเรียน
4.
มีประสบการณ์ในด้านการขาย
และ บัญชี
5.
มีประสบการณ์ในการผลิต
ปัญหาการจัดสร้างโครงงาน
ในการจัดทำโครงงานครั้งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาในการทำบ้าง
แต่ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพราะมีที่ปรึกษา ดี
ข้อเสนอแนะ
ผู้บริโภคแนะนำในตัวผลิตภัณฑ์ของบัวลอยสมุนไพร ควรเพิ่มส่วนประกอบ เช่น
1. ลูกเดือย
2. ถั่วแดง
3. เผือก
4.ถั่วเหลือง
5. มัน เป็นต้น
นั้นการปั้นเม็ดบัวลอยนั้น ถ้าอยากจะได้สีมากยิ่งกว่านั้นให้น้เม็ดบัวลอย 2 สี ประกบ กันแล้วปั้น จะได้เม็ด
บัวลอยที่ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
บรรณานุกรม
สูตรการทำ “บัวลอย
เบญรงค์ไข่หวาน”[ออนไลน์].
โตแล้วไม่อยากรักใครเพิ่ม อยากรักคนเดิมไปนานๆ sa-gaming
ตอบลบท่องเที่ยวฟรีทั่วไทยไปกับเรา joker123
ตอบลบไทย สล็อต เกมสล็อต ออนไลน์ ได้เงินจริง สล็อตเว็บไซต์ตรง ไทย สล็อต pg slot ไม่ผ่านเอเย่นต์ เป็นเว็บไซต์ สล็อตออนไลน์ ที่คุณจะเข้ามากำลังได้รับความนิยมเยอะแค่ไหนก็ได้
ตอบลบ