วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


สุดยอดที่เที่ยวฮอต! เมืองเพชรบุรี



1. หาดชะอำ : แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำเมืองเพชร เป็นชายหาดที่สวยงาม ถนนเลียบชายหาดทรายเรียงรายไปด้วยแนวต้นสน นักท่องเที่ยวมาแล้วสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นน้ำทะเลใส ซื้อของกินในราคาไม่แพง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้ามาหาบขายตลอดเวลา มีเตียงผ้าให้นั่งนอนเล่นยาวตลอดแนวชายหาดหาด เต็มไปด้วยที่พักมากมายหลายระดับให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้ ทั้งแบบราคาย่อมเยาว์ไปจนถึงที่พักหรูราคาแพง หรืออยากออกกำลังกายสนุกๆ ก็เช่าจักรยานปั่นกินลมชมวิวไปตามถนนเลียบชายหาดสามารถ หรือจะลองขี่ม้าที่มีคนนำมาไว้บริการก็ยังได้ คิดดูสิว่าจะสนุกแค่ไหน

2.เขาวัง : เป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ 3 ยอด กรมศิลปากรได้ใช้บางส่วนของพระราชวังบนยอดเขาด้านทิศตะวันตกนี้จัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุต่าง ๆ ได้แก่ เครื่องราชูปโภคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปหล่อโลหะสำริดและทองเหลืองที่ใช้สำหรับตกแต่งห้องต่าง ๆ ในพระที่นั่ง และเครื่องกระเบื้องของจีน ญี่ปุ่น และยุโรป (เฉพาะส่วนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินี้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 40 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-3242-5600

 

3. พระราชวังมฤคทายวัน : พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง เพชรบุรี หากคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวชมสถานที่สวยงามเชิงประวัติศาสตร์ ขอแนะนำพระราชวังที่มีสีหวานที่สุด และมีจักรยานให้เช่าขี่ชมรอบๆ ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลที่แสนเย็นสบาย (เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00 -16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ เวลา 08.30-16.00 น. ปิดวันพุธ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท รับผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะ ต้องทำหนังสือถึงผู้กำกับการกองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0-3250-8039)

 

4.พระราชวังบ้านปืน : พระรามราชนิเวศน์ หรือ "พระราชวังบ้านปืน" ร.5 ได้มีความประสงค์ให้สร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นพระราชนิเวศน์สำหรับประทับแรมในฤดูฝน เป็นพระราชวังที่มีรูปแบบเป็นตะวันตกและตามความนิยมของประเทศเยอรมันในช่วงเวลานั้น เรียกกันว่าแบบบาโร้คและแบบอาร์ตนูโว ซึ่งแต่ละมุมของพระราชวังได้ตกแต่งประดับประดาด้วยความพิถีพิถันและปราณีตมากๆ (เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท นักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ 5 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้าชมเป็นหมู่คณะ และต้องการวิทยากรบรรยาย สามารถทำหนังสือถึงผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเพชรบุรี ค่ายรามราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี 76000 โทร. 0-3242-8506-10 ต่อ 259)  

  
5.วัดใหญ่สุวรรณาราม : วัดนี้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะในสมัยร. 5 ภายในวัดมีศาลาการเปรียญเป็นพระตำหนักไม้สักทั้งหลังที่พระเจ้าเสือแห่งกรุง ศรีอยุธยา พระราชทานแด่พระสังฆราชชาวเพชรบุรี ศาลาการเปรียญในวัดนี้ มีลักษณะที่โดดเด่นจากงานแกะสลักไม้ที่สวยงาม โดยเฉพาะบานประตูสลักลายก้านขดปิดทอง และยังมีธรรมาสน์เทศน์ซึ่งแกะสลักลงรักปิดทอง รูปทรงเป็นบุษบกที่งดงามและสมบูรณ์ บนผนังภายในพระอุโบสถ มีภาพเขียนเทพชุมนุม อายุกว่า 300 ปี (เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันทำการ เวลา 08.00 น. - 16.00 น. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-3241-2714) 


6.วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร : วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบุรีที่มีความเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 800 -1,000ปีมาแล้ว วัดแห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองเพชรบุรี มีความโดดเด่นขององค์พระปรางค์ 5 ยอด ที่ตั้งตระหง่านดุจร่มโพธิ์ร่มไทร มองเห็นได้จากทั่วทุกสารทิศ มีทั้งความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปะ และคุณค่าสำคัญทางจิตใจของชาวเมืองเพชรบุรี เป็นศูนย์รวมศรัทธาของผู้คนมาหลายยุคหลายสมัย (เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันทำการ เวลา 08.00 น. - 16.00 น.)



  7. หาดเจ้าสำราญ : เป็นชายหาดที่เคยเป็น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากสมัยโบราณ เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงพอพระราชหฤทัยในความงามของหาดแห่งนี้มาก ทรงประทับ แรมอยู่หลายวัน จนกระทั่งชาวบ้านเรียกหาดนี้ว่า หาดเจ้าสำราญ มาสมัยร. 6 หาดเจ้าสำราญมีชื่อเสียงกว่าชายทะเลแห่งใด ๆ ในเมืองไทยสมัยนั้น ร.6 โปรดฯ ให้สร้างพระตำหนักที่ประทับขึ้น ณ ริมหาดแห่งนี้เรียกว่า พระตำหนักหาดเจ้าสำราญ ต่อมารื้อไปสร้างใหม่ที่มฤคทายวัน ปัจจุบันมีร้านอาหารและรีสอร์ทริมทะเลหลายแห่ง (เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 น. - 18.00 น. ไม่เสียค่าเที่ยวชม)

8. อช. แก่งกระจาน: ด้วยความเขียวชะอุ่มของผืนป่าบวกกับความสดชื่นของอากาศบริสุทธิ์เย็นฉ่ำยาวนานตลอดปี ไม่น่าเปลกใจที่แก่งกระจานกลายมาเป็นจุดมุ่งหมายของนักเดินทางที่ต้องการมาพักกายและพักใจในอ้อมกอดของขุนเขา มาแล้วต้องไม่พลาดไปชมอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ชมวิวขุนเขาสุดสายตา ล่องเรือชมทะเลสาบน้ำจืดเหนือเขื่อนแก่งกระจาน หรือจะขึ้นไปชมทะเลหมอก เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีจุดกางเต๊นท์พักแรมที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว (พะเนินทุ่ง) ในวันที่อากาศสบายๆ อาจได้ชมผีเสื้อแสนสวยและนกเงือกบินอยู่เหนือทะเลหมอกและขุนเขาก็ได้



อ้างอิง... http://travel.sanook.com/938259/9

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น